วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2559 ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) สำนักงาน กศน. จัดกิจกรรมรวมพลังเพื่อน้
ข่าวสาร กิจกรรม บทความและนิทรรศการถาวรที่น่าสนใจ
ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ จัดแสดงภาพยนตร์เต็มโดม เดือนเมษายน 2567 เรื่อง “จากโลกสู่จักรวาล” (From Earth to the Universe)
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ให้บริการส่วนการแสดงท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ โดยเปิดการแสดงเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 1 ชั่วโมง ให้บริการผู้ชม 280 คน ต่อ 1 รอบการแสดง ช่วงแรกของการแสดงฯ เป็นการบรรยายให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์และอวกาศโดยนักวิชาการศึกษา และการแสดงภาพยนตร์เต็มโดมจากเครื่องฉายดาวและสื่อมัลติมีเดียในช่วงท้าย การแสดงภาพยนตร์เต็มโดม เดือนเมษายน 2567 เรื่อง “จากโลกสู่จักรวาล” (From Earth to the Universe) ท้องฟ้ายามค่ำคืนทั้งสวยงามและลึกลับ ตำนานโบราณและความน่าสะพรึงกลัวของมันมักเป็นหัวข้อของเรื่องราวที่เล่าขานกันในแคมป์ไฟอยู่เสมอ ตราบใดที่ยังคงมีมนุษย์อยู่ ความปรารถนาที่จะหยั่งรู้จักรวาลอาจเป็นประสบการณ์ทางปัญญาที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษยชาติ แต่เมื่อไม่นานมานี้ เราเพิ่งเริ่มเข้าใจอย่างแท้จริงถึงตำแหน่งที่อยู่ของเราในจักรวาลอันกว้างใหญ่ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการค้นพบนี้จากทฤษฎีของทฤษฎีของนักดาราศาสตร์ชาวกรีกโบราณมาสู่เรื่องราวของกล้องโทรทรรศน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ขอเชิญคุณสัมผัสประสบการณ์จากโลกสู่จักรวาล การเดินทางอันน่าตื่นตาตื่นใจตลอด 30 นาที ผ่านอวกาศและกาลเวลาไปสู่จักรวาลตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ผู้ชมจะได้ชื่นชมความงดงามของระบบสุริยะและดวงอาทิตย์อันแสนร้อนแรง ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมออกไปสู่สถานที่เกิดอันมีสีสันและสถานที่ฝังศพของดาวฤกษ์และยังคงไกลเกินกว่าทางช้างเผือกไปจนถึงความใหญ่โตที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ของกาแลคซีมากมาย ผู้ชมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติดาราศาสตร์ การประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ และกล้องโทรทรรศน์ขนาดยักษ์ของวันนี้เพื่อให้เราสามารถสำรวจความลึกของจักรวาลได้ Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ จัดแสดงภาพยนตร์เต็มโดม เดือนมีนาคม เรื่อง กลับไปดวงจันทร์กันเถอะ (Back to The Moon for good)
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ให้บริการส่วนการแสดงท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ โดยเปิดการแสดงเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 1 ชั่วโมง ให้บริการผู้ชม 280 คน ต่อ 1 รอบการแสดง ช่วงแรกของการแสดงฯ เป็นการบรรยายให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์และอวกาศโดยนักวิชาการศึกษา และการแสดงภาพยนตร์เต็มโดมจากเครื่องฉายดาวและสื่อมัลติมีเดียในช่วงท้าย สำหรับภาพยนตร์เต็มโดม เดือนมีนาคม 2566 จัดแสดงเรื่อง กลับไปดวงจันทร์กันเถอะ (Back to The Moon for good) นำเสนอเนื้อหาสาระเกี่ยวกับดวงจันทร์และการเดินทางไปยังดวงจันทร์ของมนุษย์ ซึ่งเมื่อครั้งอดีต มนุษย์เคยไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์มาแล้ว แต่มากกว่า 40 ปีที่ผ่านมา มนุษย์ยังไม่เคยเดินทางไปยังดวงจันทร์อีกเลย มาร่วมติดตามภารกิจในการกลับไปเหยียบดวงจันทร์อีกครั้ง เพื่อจุดมุ่งหมายด้านอวกาศร่วมกันของมนุษยชาติ ท่านสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ : 0-2392-0508, 0-2391-0544 และ 0-2392-1773 ในวันและเวลาราชการ และตรวจสอบรอบการแสดงท้องฟ้าจำลองหรือกำหนดการฉายภาพยนตร์เต็มโดม ได้ที่หน้าเว็บไซต์ www.sciplanet.org หรือ กำหนดการฉายภาพยนตร์เต็มโดม Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
เชิญร่วมส่งผลงานเข้าประกวด “นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์สำหรับผู้สูงวัย” ประเภท สิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยเสริมคุณภาพชีวิต ด้านการประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงวัย
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้ดำเนินงานจัดประกวดนวัตกรรม ด้านวิทยาศาสตร์สำหรับผู้สูงวัย “แฮปปี้…สูงวัย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประเภท สิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยเสริมคุณภาพชีวิตด้านการประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงวัย ในรูปแบบออนไลน์ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 เพื่อส่งเสริม พัฒนาคุณภาพและศักยภาพของผู้สูงอายุและสามารถนำองค์ความรู้เรื่องราวต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตได้ รวมทั้งสร้างเวทีสำหรับผู้สูงวัย ได้มีส่วนร่วมในการแสดงออกทางความคิดและการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์เพื่อขับเคลื่อนการเรียนรู้ รองรับกับสังคมสูงวัยให้เป็นผู้สูงวัยที่มีศักยภาพ โดยมีการจัดประกวดระดับประเทศ ดังนี้ การประกวดระดับประเทศ : ดำเนินการจัดการประกวดฯ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (เอกมัย) รับสมัครบุคคลทั่วไปผู้มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป เข้าประกวดนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์สำหรับผู้สูงวัย “แฮปปี้…สูงวัย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประเภท สิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยเสริมคุณภาพชีวิตด้านการประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงวัย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน 2567 และนำผลงานในรูปแบบออนไลน์ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และเข้ารับรางวัลในวันที่ 28 มิถุนายน 2567 […]
บลูชีส (Blue cheese) อาหารจากเชื้อรา
มารู้จักชีสกันเถอะ ชีสทำมาจากอะไร? ชีส (Cheese) หรือเนยแข็ง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม โดยใช้น้ำนมที่ผ่านกระบวนการพลาสเจอร์ไรส์หรือน้ำนมดิบ แล้วใส่เชื้อแบคทีเรียแลคติกพร้อมกับเติมเอนไซม์เรนนิน เพื่อให้โปรตีนตกตะกอนจับกันเป็นลิ่มสีขาว (Curd) หลังจากนั้นนำมาอัดรวมกันเป็นก้อนและนำไปบ่มเพื่อให้ได้รสชาติที่ต้องการ นอกจากนี้ชีสยังมีวิธีการผลิตที่ซับซ้อนแตกต่างกันออกไป โดยชีสบางชนิดมีการใส่วัตถุดิบแปลกๆ ลงไปด้วย นั่นคือ เชื้อรา (mold) อย่างเช่นในบลูชีส แล้วทำไมราที่อยู่บนบลูชีสถึงกินได้ ? วันนี้ลองมารู้จักบลูชีสกันเถอะ บลูชีส (Blue cheese) คืออะไร? บลูชีสเกิดจากการใส่สปอร์ของราเพนิซิลเลียม (Penicillium) โดยใช้เพนิซิลเลียม ร็อคฟอร์ติ (Penicillium roqueforti) หรือเพนิซิลเลียม กลูคัม (Penicillium glaucum) ซึ่งเป็นเชื้อราที่เป็นประโยชน์ลงไปในระหว่างกระบวนการผลิต เชื้อราจะเจริญเติบโตจนได้ชีสที่เราเห็นเป็นจุดสีฟ้าปนเขียวอยู่เต็มทั้งก้อน จึงทำให้กลายเป็นชื่อเรียกของชีสชนิดนี้นั่นเอง ทางด้าน รสชาติ กลิ่น สี ลักษณะเนื้อสัมผัส (texture) ที่แตกต่างกันนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเก็บรักษา ชนิดของน้ำนมและกรรมวิธีการผลิตของแต่ละท้องถิ่น ชีสชนิดนี้มีการผลิตในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก จึงมีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น ในประเทศฝรั่งเศส เรียกว่า ร็อคฟอร์ต (Roquefort) ประเทศอังกฤษเรียกว่า สติลตัน (Stilton) และในอิตาลี เรียกว่า กอร์กอนโซล่า (Gorgonzola) […]
หน่วยวัดความเผ็ดของพริก
ถ้าหากพูดถึงอาหารไทย หลายคนคงนึกถึงอาหารที่มีความเผ็ดเป็นแน่ ซึ่งสังเกตได้จากอาหารหลาย ๆ อย่างจะต้องมีพริกเป็นส่วนประกอบในเมนูอาหาร ทุกท่านทราบหรือไม่ว่า พริกที่ให้ความเผ็ดนั้นใช้หน่วยอะไรในการวัดระดับกันนะ หน่วยวัดความเผ็ดในพริก เรียกว่า “สโกวิลล์ ฮีต ยูนิต” หรือ“เอสเอชยู” (Scoville Heat Unit ; SHU) โดยคำว่า Scoville มาจากชื่อของผู้คิดค้นวิธีการวัดระดับ คือ วิลเบอร์ สโกวิลล์ (Wilber Scoville) นักเคมีชาวอเมริกัน ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นในปี ค.ศ.1912 จากการใช้วิธีทดสอบความเผ็ดของพริกโดยทดสอบทางประสาทสัมผัส และใช้แอลกอฮอล์ละลายสารให้ความเผ็ดหรือแคปไซซิน (Capsaicin) แล้วนำไปเจือจางในน้ำ ทดลองให้คนชิมแล้วเพิ่มปริมาณขึ้นทีละนิดจน 3 ใน 5 คนที่เป็นผู้ทดลองชิมจะไม่สามารถรับรู้ถึงรสเผ็ดได้ ถ้าหากมีการเจือจางมากครั้งก็แสดงว่าพริกนั้นเผ็ดมากถ้าเจือจางน้อยครั้งก็แสดงว่าเผ็ดน้อย ปัจจุบันความเข้มข้นของแคปไซซินถูกกำหนดโดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ซึ่งวิธีการที่ใช้ในการทดสอบทั่วไปนั้นจะใช้วิธี High Pressure Liquid Chromatography (HPLC) เป็นการวัดแคปไซซินโดยตรงที่ให้ผลลัพธ์แม่นยำกว่าวิธีทางประสาทสัมผัส ค่าตัวเลขยิ่งมาก ยิ่งทำให้พริกมีระดับความเผ็ดมากเท่านั้น เรามาดูตัวอย่างระดับความเผ็ดของพริกแต่ละชนิดกันเลย อ้างอิง https://1th.me/Gz6t0https://1th.me/JPfPV Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine