
“ราก” เป็นส่วนสำคัญของต้นไม้ที่ใช้ในการดูดซึม (Absorption) และลำเลียง (Conduction) น้ำ แร่ธาตุเข้าสู่ลำต้น ช่วยยึด (Anchorage) ลำต้นให้ติดกับพื้นดิน รากจึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ต้นไม้มีชีวิตอยู่ได้ นอกจากการปลูกต้นไม้ลงดินโดยตรงเพื่อให้เกิดรากแล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ต้นไม้สร้างราก และถือว่าเป็นการอนุบาลต้นไม้ที่กำลังอ่อนแอให้มีชีวิตรอด โดยเทคนิคดังกล่าว เรียกว่า การล่อราก
“การล่อราก” เป็นเทคนิคการหลอกล่อให้ต้นไม้ที่นำมาเลี้ยงมีรากงอกออกมาด้วยตัวเอง เพื่อใช้ดูดสารอาหารในภาชนะปลูกไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ การล่อรากสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การล่อรากด้วยดินหรือหินภูเขาไฟ การล่อรากด้วยแสงแดด และการล่อรากด้วยน้ำ ซึ่งเทคนิคการล่อรากด้วยน้ำจะกล่าวถึงดังต่อไปนี้
การใช้น้ำเพื่อล่อราก เป็นเทคนิคการเลี้ยงต้นไม้ที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาไม่นานรากใหม่ก็เริ่มงอกออกมาแล้ว ในช่วงที่ทำการล่อรากต้นไม้อาจหยุดการเจริญเติบโต เนื่องจากยังไม่มีรากที่ใช้ดูดซึมอาหารและน้ำได้ด้วยตัวเอง และจะเริ่มเจริญเติบโตเมื่อโคนต้นเริ่มมีรากสีขาวแทรกออกมา การล่อรากด้วยน้ำนี้มีลักษณะคล้ายกับการปลูกต้นไม้ในแจกันที่มีน้ำ แต่ต่างกันตรงที่การล่อรากจะไม่นำโคนต้นลงไปสัมผัสกับน้ำโดยตรง โดยลำต้นจะต้องลอยอยู่เหนือน้ำและปล่อยให้รากที่งอกออกมายืดออกไปหาน้ำด้านล่างเพื่อความอยู่รอดเอง

เตรียมพืชอย่างไรเพื่อใช้ “ล่อราก”
การเตรียมต้นไม้สำหรับใช้ล่อราก หากเป็นต้นไม้ที่มีกิ่งควรเลือกตัดกิ่งที่ติดส่วนของโหนดใบมาด้วย หรือที่เรียกว่า Leaf Node เพราะเป็นบริเวณที่มีอาหารสะสมและมีฮอร์โมน เช่น ไซโทไคนิน (Cytokinin) เอทิลีน (Ethylene) และจิบเบอเรลลิน (Gibberellin) ซึ่งสามารถกระตุ้นให้รากเจริญออก
มาได้ และควรตัดกิ่งเฉียงประมาณ 45 องศา เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการแตกรากได้มากขึ้น อาจใช้ฮอร์โมนเพื่อเร่งการงอกของราก (Hormone Powder) หรือนำกิ่งไปจุ่มในน้ำผึ้ง ซึ่งมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคได้ เพราะน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลและความเป็นกรดสูง ปริมาณโปรตีนต่ำ มีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เมื่อเราใช้น้ำผึ้งทาบนบาดแผลของพืช จึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทำให้กิ่งพืชไม่เน่า อีกทั้งยังมีแร่ธาตุและสารอาหารที่ต้นไม้ต้องการอีกด้วย นอกจากนี้การเลือกน้ำที่ใช้ล่อรากก็ช่วยให้รากงอกได้เร็วขึ้น เช่น การใช้น้ำแร่ที่มีธาตุอาหารต้นไม้จะดูดซึมได้ดีกว่าน้ำประปาทั่วไป สำหรับการล่อรากต้นไม้จำพวกแคคตัส หรือไม้อวบน้ำอื่น ๆ จะต่างกับการล่อรากของต้นไม้ที่มีกิ่งก้าน เพราะจำเป็นต้องตัดรากเก่าที่ติดมากับต้นทิ้งก่อน เพื่อป้องกันการเน่าของรากที่อาจนำไปสู่การเน่าของลำต้นส่วนอื่น ๆ ได้ จากนั้นจึงล่อรากใหม่ด้วยน้ำ การล่อรากแม้ว่าน้ำจะเป็นส่วนสำคัญแต่แสงแดดก็มีส่วนช่วยให้พืชเจริญได้เช่นกัน การวางต้นไม้ไว้ในที่ที่มีแสงแดดจึงเพิ่มโอกาสการงอกของรากได้ดียิ่งขึ้น
การปลูกต้นไม้ด้วยเทคนิคการล่อราก ช่วยให้ผู้ที่รักต้นไม้แต่ไม่มีพื้นที่มากพอสำหรับการวางกระถางใหญ่ ๆ หรือแปลงกว้าง ๆ สามารถปลูกหรือเลี้ยงต้นไม้ได้ แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่ไม่ใช่ว่าพืชทุกชนิดจะนำมาล่อรากได้ โดยต้นไม้ (ไม้ดิน) ที่นิยมนำมาล่อราก ได้แก่ แคคตัส บอนสี ไผ่กวนอิม ไทรใบสัก และฟิโลเดนดรอนสายพันธุ์ต่าง ๆ การล่อรากนอกจากจะเป็นเทคนิคการปลูกต้นไม้ที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่มีพื้นที่แล้ว คนที่ไม่มีเวลาหรือกังวลว่าจะลืมรดน้ำ การล่อรากด้วยน้ำเป็นการเลี้ยงต้นไม้ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากรากที่งอกออกมาเมื่อยืดและจุ่มลงในน้ำจะค่อย ๆ ดูดน้ำไปเลี้ยงลำต้นทีละน้อย ทำให้ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย ๆ แต่อย่างไรก็ตามการใส่น้ำไว้ในภาชนะนานเกินไปก็อาจสร้างแหล่งที่อยู่ให้ยุง และตะไคร่น้ำได้ ดังนั้นหากมีเวลาเราจึงควรตรวจสอบและเปลี่ยนทำความสะอาดภาชนะใส่น้ำอยู่เสมอ นอกจากจะป้องกันการเกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงได้แล้ว ยังทำให้ภาชนะที่ใส่น้ำสะอาด เมื่อใส่ต้นไม้ลงไปทำให้ดูสวยงาม และสามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของรากและกิ่งได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย