ข่าวสาร กิจกรรม บทความและนิทรรศการถาวรที่น่าสนใจ
ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ จัดแสดงภาพยนตร์เต็มโดม เดือนมีนาคม เรื่อง กลับไปดวงจันทร์กันเถอะ (Back to The Moon for good)
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ให้บริการส่วนการแสดงท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ โดยเปิดการแสดงเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 1 ชั่วโมง ให้บริการผู้ชม 280 คน ต่อ 1 รอบการแสดง ช่วงแรกของการแสดงฯ เป็นการบรรยายให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์และอวกาศโดยนักวิชาการศึกษา และการแสดงภาพยนตร์เต็มโดมจากเครื่องฉายดาวและสื่อมัลติมีเดียในช่วงท้าย สำหรับภาพยนตร์เต็มโดม เดือนมีนาคม 2566 จัดแสดงเรื่อง กลับไปดวงจันทร์กันเถอะ (Back to The Moon for good) นำเสนอเนื้อหาสาระเกี่ยวกับดวงจันทร์และการเดินทางไปยังดวงจันทร์ของมนุษย์ ซึ่งเมื่อครั้งอดีต มนุษย์เคยไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์มาแล้ว แต่มากกว่า 40 ปีที่ผ่านมา มนุษย์ยังไม่เคยเดินทางไปยังดวงจันทร์อีกเลย มาร่วมติดตามภารกิจในการกลับไปเหยียบดวงจันทร์อีกครั้ง เพื่อจุดมุ่งหมายด้านอวกาศร่วมกันของมนุษยชาติ ท่านสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ : 0-2392-0508, 0-2391-0544 และ 0-2392-1773 ในวันและเวลาราชการ และตรวจสอบรอบการแสดงท้องฟ้าจำลองหรือกำหนดการฉายภาพยนตร์เต็มโดม ได้ที่หน้าเว็บไซต์ www.sciplanet.org หรือ กำหนดการฉายภาพยนตร์เต็มโดม Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
เชิญร่วมส่งผลงานเข้าประกวด “นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์สำหรับผู้สูงวัย” ประเภท สิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยเสริมคุณภาพชีวิต ด้านการประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงวัย
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ได้ดำเนินงานจัดประกวดนวัตกรรม ด้านวิทยาศาสตร์สำหรับผู้สูงวัย “แฮปปี้…สูงวัย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประเภท สิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยเสริมคุณภาพชีวิตด้านการประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงวัย ในรูปแบบออนไลน์ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 เพื่อส่งเสริม พัฒนาคุณภาพและศักยภาพของผู้สูงอายุและสามารถนำองค์ความรู้เรื่องราวต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตได้ รวมทั้งสร้างเวทีสำหรับผู้สูงวัย ได้มีส่วนร่วมในการแสดงออกทางความคิดและการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์เพื่อขับเคลื่อนการเรียนรู้ รองรับกับสังคมสูงวัยให้เป็นผู้สูงวัยที่มีศักยภาพ โดยมีการจัดประกวดระดับประเทศ ดังนี้ การประกวดระดับประเทศ : ดำเนินการจัดการประกวดฯ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (เอกมัย) รับสมัครบุคคลทั่วไปผู้มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป เข้าประกวดนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์สำหรับผู้สูงวัย “แฮปปี้…สูงวัย” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ประเภท สิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยเสริมคุณภาพชีวิตด้านการประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงวัย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน 2567 และนำผลงานในรูปแบบออนไลน์ ในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และเข้ารับรางวัลในวันที่ 28 มิถุนายน 2567 […]
รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV)
รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในยุคปัจจุบัน ทดแทนรถยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยใช้แหล่งพลังงานจากการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดมลพิษต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งน้ำมันดิบเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่นับวันจะหมดไปเรื่อย ๆ รถยนต์ไฟฟ้าจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานที่อาจเป็นแบตเตอรี่หรือแหล่งพลังงานอื่นโดยไม่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิง ไม่ปล่อยคาร์บอนมอนอกไซด์ ไม่เกิดฝุ่นและเสียงรบกวน ถือว่าเป็นมิตรกับมนุษย์และสิ่งแวดล้อมเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (low carbon society) อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันยังมีทั้งแบบอาศัยเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในมาใช้ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งในส่วนการขับเคลื่อนและผลิตพลังงานไฟฟ้าเก็บสะสมในแบตเตอรี่ หรือเป็นแบบที่ใช้เชื้อเพลิงอื่นอย่างแก๊สไฮโดรเจนมาผลิตพลังงานไฟฟ้าโดยใช้เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงด้วยดังนั้น จึงแบ่งรถยนต์ไฟฟ้าออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1) รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% จากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า โดยต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานภายนอก และไม่มีเครื่องยนต์ที่ต้องเผาไหม้เชื้อเพลิงจึงไม่มีการปล่อยไอเสียออกมา 2) รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมประกอบไปด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไป ไม่มีช่องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานภายนอก 3) รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนามาจากแบบไฮบริด แต่มีช่องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานภายนอกได้สามารถวิ่งได้ระยะทางที่ไกลกว่าแบบไฮบริด 4) รถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric […]
ทำไมเราสะอึกกันนะ?
“อาการสะอึก” เชื่อแน่ว่าไม่มีใครไม่เคยเป็น การสะอึกเป็นอาการที่เราต่างไม่พึงประสงค์และอยากให้มันหายไว ๆ เราเคยสงสัยไหมว่าอาการสะอึกเกิดขึ้นอย่างได้อย่างไร? การสะอึกเริ่มมาจากการกระตุกเกร็งหรือการบีบตัวของ “กะบังลม” กล้ามเนื้อทรงโดมขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้ปอดที่เราใช้ในการหายใจ เกิดการทำงานที่ไม่สอดประสานกันกับอวัยวะส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ เนื่องจากการปิดของเส้นเสียงในทันที และการเปิดระหว่างเส้นเสียง หรือที่เรียกว่ากล่องเสียง การเคลื่อนของกะบังลมทำให้เกิดการดึงอากาศเข้าไปทันที แต่การปิดของเส้นเสียงกลับหยุดอากาศไม่ให้เข้าไปในหลอดลมและไปถึงปอด จึงทำให้เกิดเสียงสะอึก สาเหตุอาจเกิดหลายสาเหตุ เช่น การรับประทานอาหารเร็วและมากเกินไป การรับประทานอาหารที่เผ็ดเกินไป การดื่มเครื่องดื่มที่มีแก๊สเยอะ เช่น น้ำอัดลม ชอบใช้หลอดดูดน้ำ ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอม ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชอบสูบบุหรี่ และการกินของร้อน เย็น สลับกันทันทีหรืออาจมีสาเหตุทางอารมณ์ เช่น เกิดความเครียด ตื่นเต้น หรือกลัวก็ได้ วิธีแก้การอาการสะอึก หายใจเข้าลึก ๆ กลั้นหายใจ 10 วินาที จากนั้นหายใจออก แล้วดื่มน้ำตามทันที เงยหน้าขึ้น กลั้นหายใจ 10 วินาที จากนั้นหายใจออกยาว ๆ แล้วดื่มน้ำตามทันที อมน้ำไว้ คางชิดอก แล้วพยายามกลืนน้ำที่อมไว้ อย่างไรก็ตามอาการสะอึกไม่เป็นอันตรายหรือเป็นอาการที่เกิดระยะสั้นเท่านั้น เมื่อร่างกายกลับมาทำงานได้ปกติ […]
“กัญชาเสรี” กินอย่างไรให้ปลอดภัย
กัญชา พืชสมุนไพรที่นอกจากจะใช้เป็นยาแล้ว ยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้ โดยส่วนที่นิยมนำมาใช้ คือ ใบสดกัญชา เช่น ใบกัญชาอ่อน หรือใบเพสลาด (ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป) ใบกัญชามีกรดกลูตามิก (Glutamic acid) ที่ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้กลมกล่อม และสารTetrahydrocannabinol : THC ทำให้อาหารมีกลิ่นหอมเมื่อกินไปแล้วจึงรู้สึกอยากอาหารมากขึ้นนั่นเอง แต่การนำมาใช้ประกอบอาหารนั้นต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียแก่ร่างกาย ใบสดกัญชามีสาร Cannabidiolic acid : CBDA และสาร Tetrahydrocannabinolic acid : THCA ที่ไม่มีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (ไม่ใช่สารเมา) แต่ THCA สามารถเปลี่ยนเป็นสาร THC หรือสารเมาได้ ด้วยกระบวนการต่าง ๆ เช่น เมื่อถูกแสงแดด สภาพอากาศร้อน และอุณหภูมิที่สูง หากใบกัญชาอยู่ในสภาวะต่อไปนี้จะทำให้สาร THCA ในใบกัญชาสามารถเปลี่ยนเป็น สาร THC ได้อย่างสมบูรณ์ คือ อุณหภูมิ 98 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4 ชั่วโมง อุณหภูมิ […]