
คุณเชื่อหรือไม่ว่า ในบรรดาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด “ไวน์” นี่แหละถือว่าเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลกเลย เนื่องจากไวน์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เก่าแก่ที่สุด ดื่มกันมาตั้งแต่พันปีก่อน อีกทั้งยังมีหลากหลายแบบ หลากหลายรสชาติที่แตกต่างกันไปตามแหล่งผลิต ระยะเวลาการบ่ม สายพันธุ์ขององุ่น รวมไปถึงชนิดของไวน์ที่แตกต่างกันให้ไดัลิ้มลอง ที่สําคัญยังช่วยเพิ่มอรรถรสและบรรยากาศในมื้ออาหารให้ดีขึ้นอีกด้วย แต่คนส่วนใหญ่ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะนึกออกแต่โทษของมัน ซึ่งจริง ๆ แล้วจากผลงานวิจัยพบว่าถ้าเราดื่มแต่พอดีในปริมาณที่เหมาะสมมันมีประโยชน์ต่อร่างกายเราอย่างมหาศาลเลยนะ
ไวน์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านกระบวนการหมักผลไม้ชนิดต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้องุ่นมาหมักกับยีสต์ แล้วยีสต์ทําการเปลี่ยนน้ําตาลที่อยู่ในน้ําองุ่นเป็นแอลกอฮอล์ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ โดยไวน์จะมีแอลกอฮอล์อยู่ประมาณ 9-15% และด้วยความที่ใช้วัตถุดิบหลักเป็นองุ่น ซึ่งมีสรรพคุณ และสารที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรสเวอราทรอล (Resveratrol) เควอซิทิน (Quercetin) ไพซีแทนอน (Piceatannol) และสารกลุ่มโอพีซี OPC (Oligomeric proanthocyanidins) เป็นต้น และสารเหล่านี้มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ดังนี้
- เรสเวอราทรอล (Resveratrol) : กระตุ้นยีน Sirtuin 2 ทําให้เซลล์ร่างกายเกิดการซ่อมแซมตัวเอง
ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง
โรคอัลไซเมอร์ ลดไขมันชนิดไม่ดี (LDL Cholesterol) และป้องกันการเกิดมะเร็ง - เควอซิทิน (Quercetin) : สารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบในหลอดเลือด ลดไขมันชนิดไม่ดี (LDL-C) ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือด
- ไพซีแทนอน (Piceatannol) : สารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดการสะสมของไขมัน และควบคุมระดับน้ําตาลในเลือด
- สารกลุ่มโอพีซี OPC (Oligomeric proanthocyanidins) : ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของหลอดเลือด
คอลลาเจน และเป็นเสมือนสารกันแดดธรรมชาติ เพราะลดการถูกทําลายจากแสงยูวีได้ถึง 15% - แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) : รงควัตถุชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ และเส้นเลือดอุดตันในสมอง ด้วยการยับยั้งไม่ให้เลือดจับตัวเป็นก้อนและชะลอความเสื่อมของดวงตา
ดื่มไวน์อย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ
การดื่มไวน์แม้จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง แต่การดื่มในปริมาณที่มากเกินไปก็ก่่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน ดังนั้นควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้นถึงจะเกิดประโยชน์ และปริมาณที่แนะนําคือ ผู้ชายควรดื่มไม่เกิน 2 หน่วย และผู้หญิงไม่เกิน 1 หน่วยบริโภคต่อวัน โดยปริมาณบริโภคต่อหน่วยนั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ ยิ่งแอลกอฮอล์สูง ปริมาณการดื่มก็จะลดลง
การดื่มแอลกอฮอล์ 1 หน่วย หมายถึง เบียร์ที่มีแอลกอฮอล์ 5% = 360 มิลลิลิตร, ไวน์ที่มีแอลกอฮอล์ 12% = 150 มิลลิลิตร, สุราที่มีแอลกอฮอล์ 40% = 45 มิลลิลิตร
ดื่มไวน์มากเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร
การดื่มไวน์ในปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนี้
- ติดสุรา การดื่มไวน์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ๆ มากจนเกินไป อาจทําให้ไม่สามารถควบคุมตนเอง และปริมาณในการดื่มได้ จนอาจเกิดอาการติดสุรา
- น้ําหนักตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไวน์มีแคลอรี่มากกว่าเบียร์ และน้ําอัดลมถึง 2 เท่า ดังนั้นการดื่มไวน์มาก
เกินไปจึงอาจทําให้น้ําหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ - เสี่ยงเกิดโรค การดื่มไวน์ประมาณ 2-3 แก้ว/วัน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับและตับแข็งซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และหากดื่มไวน์ 1-3 ครั้ง/สัปดาห์ หรือดื่มในปริมาณมากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคซึมเศร้า และนําไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้
อ้างอิง
https://1th.me/3mYT0
https://1th.me/hQfFQ
https://1th.me/hlllU
https://1th.me/XCqPd
https://1th.me/CJoOg
https://1th.me/BRnkV