Skateboard เทรนด์ใหม่ในยุคโควิด

ขณะนี้ต้องยอมรับกันเลยว่าเทรนด์ใหม่ที่เรากำลังจะพูดถึงคงเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้นอกจาก Skateboard ซึ่งตอนนี้ทั้งรุ่นเล็กจนถึงรุ่นใหญ่ รวมแม้กระทั่งดาราในวงการหลาย ๆ คน ต่างก็หันมาเล่นเจ้าสเก็ตบอร์ดกันเป็นจำนวนมาก และเนื่องจากความฮอตฮิตของมันนี่เอง เรามาทำความรู้จักกับ Skateboard กันซะหน่อยดีกว่า

สเก็ตบอร์ด (Skateboard) เป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมสุดฮอตที่ถูกดัดแปลงมาจากกีฬาเซิร์ฟมาไว้บนบก ที่ต้องใช้ทักษะในการเล่นค่อนข้างสูง ประกอบไปด้วยหลักการของวิทยาศาสตร์ที่สามารถอธิบายได้ตั้งแต่การออกแบบส่วนประกอบของตัว Skateboard จนกระทั่งถึงวิธีการเล่นในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

สเก็ตบอร์ด ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่

  • ส่วนที่ 1 พื้นกระดาน (Deck) เป็นส่วนพื้น สเก็ตบอร์ดที่มีความแข็งแรงทนทานและมีความยืดหยุ่นตัว ส่วนใหญ่มักทำมาจากไม้เมเปิ้ล เป็นแผ่นซ้อนกันประมาณ 7 ชั้นด้วยกาวสูตรน้ำหรืออีพอกซีเรซิ่นพิเศษที่ถูกกดเข้าด้วยกันภายใต้แรงดันสูง โดยทั่วไปจะมีรูปทรงโค้งขึ้นตามแนวขอบด้านข้าง สำหรับให้นักเล่นสเก็ตใช้รักษาการควบคุมและสร้างความแข็งแรงของตัวพื้นกระดานเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งส่วนผิวด้านบนจะมีแผ่นกริ๊ปเทป (Griptape) เพื่อช่วยในการยึดเกาะระหว่างเท้ากับแผ่นสเก็ตบอร์ด
  • ส่วนที่ 2 ทรัคหรือแกนล้อ (Trucks) เปรียบเสมือนเพลาของล้อรถ เป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นกระดานกับล้อ เป็นส่วนที่รับแรงหมุนบดและการเคลื่อนไหวที่รุนแรงด้วยแกนบูช (Bushings) และลูกปืน (Bearings) ที่ต้องมีความแข็งแรงมาก สามารถปรับแต่งสำหรับควบคุมการเลี้ยวให้ง่ายขึ้นตามความชอบของผู้เล่นได้
  • ส่วนที่ 3 ส่วนล้อ (Wheels) ล้อของสเก็ตบอร์ดมักผลิตด้วยวัสดุยูรีเทน (Urethane) ซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถรักษาโมเมนตัมและลดการสูญเสียพลังงานได้ดี มีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นตัวได้เมื่อล้อถูกกดด้วยแรงจำนวนมากจะสามารถยุบแบนลงและคืนตัวกลับสู่รูปทรงปกติได้

โดยทั่วไปสเก็ตบอร์ดจะมีส่วนปลายด้านหลังเรียกว่า หาง (Tail) และส่วนปลายด้านหน้าเรียกว่า จมูก (Nose) ที่มีลักษณะโค้งงอขึ้นเช่นเดียวกัน ความยาวความกว้างและรูปร่างที่แตกต่างกันก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการใช้งานและสไตล์การเล่นที่มีความแตกต่างกันของแต่ละคน

การเริ่มเล่นสเก็ตบอร์ด ต้องเริ่มต้นจากการวางเท้าข้างใดข้างหนึ่งทำมุม 30 องศาใกล้กับสลักเกลียวด้านหน้า งอเข่าด้านหน้าให้ขาหลังสามารถแตะพื้นได้เพื่อให้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายใกล้กับพื้นมากขึ้น จะทำให้ทรงตัวได้ดีขึ้น พยายามทำให้น้ำหนักทั้งหมดของร่างกายสมดุลอยู่ที่เท้าหน้า ส่วนเท้าอีกข้างหนึ่งใช้ไถพื้นเพื่อดันให้สเกตบอร์ดไปข้างหน้าเรื่อย ๆ หลังจากนั้นดึงเท้าหลังกลับไปยังบอร์ดโดยทำมุมเล็กน้อยใกล้กับสลักเกลียวด้านหลังแต่หากเราไม่ออกแรงไถพื้นต่อสเก็ตบอร์ดจะเคลื่อนที่ช้าลงจนในที่สุดก็หยุด นั่นเป็นเพราะแรงเสียดทานระหว่างล้อสเกตบอร์ดกับพื้นเคลื่อนที่ในทิศทางตรงข้ามกัน

การเลี้ยวเป็นเรื่องง่ายมากและจะเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เริ่มต้นจากงอเข่าและย่อตัวลง ก่อนที่จะใช้น้ำหนักของตัว เอนมาเพื่อพลิกบอร์ด ด้วยการใช้ไหล่และลำตัวพร้อมใช้แรงกดด้วยนิ้วเท้าหรือส้นเท้าในทิศทางที่ต้องการหันไป เมื่อเลี้ยวเสร็จแล้วร่างกายก็จะกลับสู่ท่าทางเดิมเพื่อเคลื่อนที่ยังข้างหน้าต่อไป

สเก็ตบอร์ดสามารถยกขึ้นจากพื้นได้เนื่องจากโมเมนตัมที่ส่งมาจากนักสเก็ตบอร์ดที่กดคิกเทลลง สเก็ตบอร์ดจะทำหน้าที่เป็นคันโยกรอบล้อหลัง ด้วยการวางเท้าหลังไว้ที่หางเตะและเอนหลังเล็กน้อยเพื่อยกล้อหน้าขึ้นจากพื้น ดังนั้นเมื่อดันคิกเทลลง จุดศูนย์กลางมวลของสเก็ตบอร์ดจะลอยขึ้น หากทำได้เร็วพอจุดศูนย์กลางมวลของสเก็ตบอร์ดจะมีโมเมนตัมสูงขึ้นเพียงพอที่จะยกสเก็ตบอร์ดทั้งหมดขึ้นจากพื้น และการคิกเทลจะช่วยให้คุณเลี้ยวได้อย่างรวดเร็วและมีประโยชน์มากสำหรับการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางหรือเปลี่ยนทิศทางบนทางลาด วิธีนี้ช่วยให้ผู้เล่นสามารถหมุนด้านหน้าของกระดานในขณะที่ยกล้อไปในทิศทางที่ต้องการจะเลี้ยวตามทิศทางที่ศีรษะไหล่และสะโพกชี้ออกไป

การเบรก ผู้เล่นจะใช้เท้าหน้าลากเท้าไปบนพื้นเพื่อหยุดการเคลื่อนที่ในแนวนอนของสเก็ตบอร์ด หรือใช้การคิกเทลเพื่อให้ส่วนหางเสียดสีกับพื้นแต่อาจจะทำให้แผ่นบอร์ดนั้นสึกหรอ

Ollie เป็นท่าพื้นฐานในการเล่นสเก็ตบอร์ด ที่จะยกแผ่นสเก็ตบอร์ดให้ลอยอยู่ในอากาศ หรือกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางได้ เรามาทำความเข้าใจกันซิว่าแผ่นสเก็ตบอร์ดสามารถลอยอยู่ในอากาศได้อย่างไร

ก่อนที่นักเล่นสเก็ตจะเล่น ollie จะมีแรงที่กระทำอยู่ 3 แรงบนสเก็ตบอร์ด ได้แก่ น้ำหนักของผู้ขับขี่ แรงโน้มถ่วงของสเก็ตบอร์ดและแรงของพื้นดินที่ดันขึ้นไปบนสเก็ตบอร์ด แรงลัพธ์ที่กระทำนั้นเป็นศูนย์ ซึ่งเมื่อไม่มีแรงมากระทำ สเก็ตบอร์ดก็ไม่มีความเร่ง จึงยังคงรักษาสภาพการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ 

เวลากระโดด ollie นักสเก็ตจะพยายามหมอบลง เพื่อให้จุดศูนย์กลางมวลต่ำ ซึ่งจะทำให้กระโดดได้สูง นักสเก็ตจะยกตัวเองขึ้นโดยการยืดขาและยกแขนขึ้นในระหว่างการกระโดด เท้าหลังของเขาจะออกแรงที่ส่วนหางของกระดานมากกว่าที่เท้าหน้าทำกับส่วนจมูก ทำให้กระดานหมุนทวนเข็มนาฬิกาโดยมีล้อหลังเป็นจุดหมุน

ในขณะที่ส่วนหางกระทบพื้น (แรงกริยา) พื้นจะออกแรงกระทำกับส่วนหางขึ้นสูง (แรงปฏิกิริยา) ผลของแรงขึ้นนี้ทำให้กระดานเด้งขึ้นและเริ่มหมุนตามเข็มนาฬิกา คราวนี้จะอยู่รอบจุดศูนย์กลางมวล

ขณะที่กระดานอยู่ในอากาศอย่างสมบูรณ์ นักสเก็ตจะเลื่อนเท้าหน้าไปข้างหน้าโดยใช้แรงเสียดทานระหว่างเท้ากับพื้นแผ่นกริ๊ปเทป เพื่อลากกระดานให้สูงขึ้น

นักสเก็ตเริ่มดันเท้าหน้าลงยกล้อหลังและปรับระดับออกจากกระดาน ในขณะเดียวกันเขาก็ยกขาหลังของเขาขึ้นเพื่อให้พ้นทางหางที่สูงขึ้นของกระดาน ถ้าเขาเคลื่อนไหวอย่างสมบูรณ์แบบครั้งนี้เท้าหลังและด้านหลังของกระดานจะลอยสูงขึ้นพร้อมกันซึ่งดูเหมือนจะ “ติด” กัน

ตอนนี้บอร์ดอยู่ในระดับที่ความสูงที่สูงสุด เมื่อเท้าทั้งสองสัมผัสกับกระดานผู้เล่นและสเก็ตบอร์ดจะเริ่มล้มลงพร้อมกันภายใต้อิทธิพลของแรงโน้มถ่วงในที่สุดแรงโน้มถ่วงก็ชนะและผู้เล่นก็งอขาเพื่อดูดซับแรงกระแทกจากการลง

สเก็ตบอร์ดเป็นกีฬาที่สามารถให้ความสนุกสนาน ความตื่นเต้น และมีความท้าทายสูง มันจึงสามารถตอบโจทย์วัยรุ่นที่กำลังมองหาความท้าทายได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังต้องอาศัยการฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ และก็ขอฝากไว้สำหรับผู้เล่นมือใหม่ ควรสวมเครื่องป้องกันตัวเองตลอดเวลาเพื่อลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้และเลือกเล่นในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะหรือในที่ที่เหมาะสม อันตรายเกิดขึ้นได้ถ้าตกอยู่ในความประมาท 

อ้างอิง

https://bit.ly/3zbHf20
https://bit.ly/3mj80ht
https://bit.ly/381x6cj
https://bit.ly/37ZfvS7