ลดเวลาจ้องจอ เพิ่มเวลาเรียนรู้ก็สนุกได้

ยุคนี้เราแทบจะจับโทรศัพท์มือถือกันอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าในหนึ่งวันเราใช้เวลาในการจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือมากที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเด็ก ๆ  มักจะชอบเล่นเกมหรือดูการ์ตูนผ่านโทรศัพท์มือถือถึงขั้นวางไม่ลงกันเลยทีเดียว การติดโทรศัพท์มือถือของเด็กนั้นคงทำให้ผู้ปกครองหลายคนปวดหัวเลยอย่างมากเพราะ การจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือนั้นเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อสายตา ถ้าหากปล่อยให้เด็กใช้เวลาไปกับหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็จะลดเวลาเรียนรู้ลงไปด้วย เพราะฉะนั้นการที่ผู้ปกครองสามารถหากิจกรรมมาให้เด็ก ๆ ได้เล่นสนุกได้ไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมภายในบ้าน การจัดกิจกรรมกลางแจ้ง หรือพาออกไปทำกิจกรรมใหม่ ๆ นอกบ้าน เพื่อเพิ่มเวลาเรียนรู้เสริมสร้างพัฒนาการและเป็นตัวช่วยลดเวลาการจ้องหน้าจอของเด็ก ๆ ได้แบบง่ายเพียงแค่ผู้ปกครองสามารถแนะนำให้เด็ก ๆ ทำกิจกรรมต่อไปนี้

กิจกรรมการอ่าน

การอ่านไม่ว่าจะเป็นนิทาน หนังสือภาพ หรือทายคำศัพท์ จะช่วยฝึกทักษะด้านภาษา การออกเสียง ฝึกการมองภาพและการจดจำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็กได้ดีมาก

สร้างผลงานศิลปะ

การวาดรูป ระบายสี หรือปั้นดินน้ำมันถือเป็นการเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก ๆ ได้รู้จักสี เรียนรู้ทดลองผสมสีต่าง ๆ และยังได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กด้วยการจับดินสอ สี พู่กัน หรือการใช้มือปั้นดินน้ำมัน

เล่นเกม

เกมว่านี้ไม่ใช่เกมคอมพิวเตอร์แต่อย่างใด แต่เป็นเกมสำหรับครอบครัว เช่น โดมิโน่ เกมเศรษฐี เกมบันไดงู การทายปริศนา เกมกระดาน ต่อจิ๊กซอว์ ตัวต่อไม้ หรือการนำสิ่งรอบตัวมาประกอบกันเพื่อเป็นสื่อหรือสร้างสถานการณ์ให้แก้ปัญหา จะช่วยฝึกกระบวนการคิด การแก้ไขปัญหารวมไปถึงเสริมสร้างสมาธิให้กับเด็ก ๆ ซึ่งสามารถเล่นสนุกได้ทั้งครอบครัวอีกด้วย  

กิจกรรมกลางแจ้ง

การเล่นกีฬา การเล่นทราย การเล่นน้ำ หรือการเล่นในสนามเด็กเล่น การที่ได้วิ่ง ปีนป่าย หมุนตัว กระโดด คลาน กลิ้ง เป็นการให้เด็ก ๆ ได้ใช้ร่างกายทุกส่วนซึ่งจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ ส่งเสริมให้มีร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพดี

พาออกไปทำกิจกรรมใหม่ ๆ

การพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมใหม่ ๆ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศและสร้างความน่าสนใจทำให้เด็กอยากที่จะเรียนรู้มากยิ่งขึ้น แหล่งเรียนรู้ที่ผู้ปกครองสามารถพาเด็ก ๆ ไปเพลิดเพลิน เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ ๆ ทำให้วันหยุดเต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนานกับการศึกษานอกสถานที่ เช่น

  • สวนสัตว์หรือพิพิธภัณฑ์สัตว์ทะเลนั้นจะช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับชนิดของสัตว์ ได้มีโอกาสเห็นสัตว์จริง ๆ
  • อุทยานแห่งชาติ หรือการเดินป่าก็จะช่วยให้เด็ก ๆ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติและได้เรียนรู้ที่จะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
  • ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เช่น ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ฯ  ซึ่งเป็นอีกแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งห้องฉายดาวที่จะสอนให้เด็ก ๆ นั้นเรียนรู้เกี่ยวกับจักรวาลของเรา และส่วนแสดงนิทรรศการวิทยาศาสตร์ให้ได้เรียนรู้อีกด้วย

อ้างอิง

https://bit.ly/3GMxkmT
https://bit.ly/3m8FVsf
https://bit.ly/3p05mhs
https://bit.ly/3IQO3Hz
https://bit.ly/33DeBw1
https://bit.ly/3ytxVai
https://bit.ly/3q3VYZB